ชัยภูมิ: รมว.อว. ลุยอีสานตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย ม.ราชภัฏชัยภูมิ มุ่งเชิงรุกพัฒนาขับเคลื่อนสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ หรือ “ธัชชา”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า(18) ณ ศาสตราจารย์(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (รมว.อว.) และคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย โดยมีนายพรเทพ วัชกีกุล ปลัดจังหวัดชัยภูมิ และรองศาสตราจารย์ ดร.ศิริวัฒน์ โพธิเวชกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดชัยภูมิ และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมต้อนรับ ณ ห้อง Co-Working Space สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ระหว่างวันที่ 17-18 พฤษภาคม 2565
ขณะที่รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริวัฒน์ โพธิเวชกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ กล่าวว่า การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ มีการร่วมมือกับจังหวัดชัยภูมิ ในการพัฒนาจังหวัดชัยภูมิในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น ๑.ส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจบนรากฐานตามหลักศาสตร์พระราชาสู่การแข่งขันอย่างยั่งยืน, ๒.การพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตให้มั่นคงตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง, ๓.การสร้างความมั่นคงเพื่อการพัฒนาจังหวัดสู่ความมั่นคงและยั่งยืน ผ่านโครงการการพัฒนาพื้นที่แบบองค์รวม ABC-6D Chaiyaphum Model ซึ่ งเ ป็ น โ ค ร ง ก า ร ที่ น้ อ ม น า พ ร ะ ร า โ ช บ า ย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ประกอบด้วย ๖ ด้าน ดังนี้ ๑. ด้านการศึกษา ๒.ด้าน สิ่งแวดล้อม ๓.ด้านอาชีพ ๔. ด้านสุขภาพ ๕.ด้านเศรษฐกิจ ๖. ด้านวัฒนธรรม โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ในโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (๑ ตำบล ๑ มหาวิทยาลัย หรือ U2T) ร่วมแก้ไขปัญหาชุมชน เพื่อให้เกิดประโยชน์ และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับการแก้ปัญหาความยากจนได้อย่างเป็นรูปธรรม เป็นการระดมพลังของหน่วยงานที่มีศักยภาพในท้องถิ่นทุกภาคส่วน โดยมีการกำหนดเป้าหมายการทำงานร่วมกันมีแผนพัฒนาที่ชัดเจน
ก่อนที่จะได้ลงพื้นที่ ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนบุปผาราม ต.โนนกอก อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นโครงการตามยุทธศาสตร์การบริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ เพื่อมุ่งหวังที่จะขับเคลื่อนจังหวัดชัยภูมิให้เป็น Green and Smart City นับเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ นวัตกรรมนำไปปรับใช้ในพื้นที่ของตนเองให้เหมาะสมและยั่งยืนต่อไป///