ค้านโรงขยะไฟฟ้า ชาวบ้านหมู่ 7 หัวถนน อ.ท่าตะโก รวมตัวค้านโรงงานกำจัดขยะไฟฟ้า มีแบคดี มีเบื้องหลัง มีเงื่อนงำ มีเงินฟาดหัวละ 300 เอาคนที่อื่นมา
ชาวบ้านหนองสองห้อง หมู่ที่ 7 ตำบลหัวถนน อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ กว่า 300 คน รวมตัวเดินชูป้ายคัดค้านการก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะไฟฟ้า บ้านหนองสองห้อง และมุ่งหน้าไปยังบ่อทิ้งขยะหรือสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยในหมู่บ้าน เพื่อคัดค้านการทำประชาคมที่กำลังจะเกิดขึ้น มีผู้ที่พยายามที่จะทำให้สำเร็จเพื่อสร้างโรงงานกำจัดขยะไฟฟ้า ที่กำลังจะมีการก่อสร้างขึ้นใหม่ใกล้กับบ่อทิ้งขยะเดิมในบริเวณใกล้เคียง เหตุเกิดที่วัดหนองสองห้อง เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา
สำหรับโครงการนี้ เรื่องการบริหารจัดการขยะ ผู้บริหารเทศบาลตำบลท่าตะโก จะเป็นการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "โครงการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน โดยการแปรรูป เป็นพลังงานไฟฟ้ระบบปิด แบบ Waste to Energy (WTE)" ระหว่างเทศบาลตำบลท่าตะโก กับ องค์กรปกกรองส่วนท้องถิ่น (อบต.)
นาย อัมรินทร์ คำจีนสี หนึ่งในแกนนำชาวบ้าน เปิดเผยกับแหล่งข่าวว่า ในหมู่บ้านมีบ่อขยะเดิมอยู่แล้ว 1 บ่อ นอกจากจะรองรับขยะจากในอำเภอท่าตะโกแล้ว ยังมีขยะนอกพื้นที่ต่างอำเภอมาทิ้งภายในหมู่บ้านอีก สร้างปัญหาเรื่องมลพิษ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นเหม็น หรือน้ำเน่าเสียที่ไหลออกจากบ่อขยะ ทั้งสุนัขและอีกา จะแอบเข้าไปคาบขยะออกมาข้างในบ่อมากิน มาทิ้งตามถนนหนทางในหมู่บ้าน ตนและชาวบ้านมองว่าขนาดบ่อขยะเก่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถดูแลปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นได้เลย ยังจะนำโครงการสร้างโรงงานกำจัดขยะ หรือเตาเผาขยะไฟฟ้ามาสร้างภายในหมู่บ้านอีก หมู่บ้านของตนก็จะกลายเป็นหมู่บ้านขยะ สร้างความเดือดร้อน ส่งผลกระทบต่อไปในอนาคต เพราะชาวบ้านหลายครอบครัว มีอาชีพการทำนา ทำไร่ โดยก่อนที่จะมีการทำประชาคมในครั้งนี้ ตนและชาวบ้านสังเกตุว่าชาวบ้านที่จะเข้าร่วมประชาคม เป็นคนนอกพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง และบางหมู่บ้านก็ไปดูงานในต่างจังหวัด กับหน่วยงานที่เตรียมการจัดสร้างโรงงานกำจัดขยะไฟฟ้า หากมีการทำประชาคมสำเร็จ จึงเชื่อได้ว่าจะมีการสนับสนุนให้สร้างโรงงานแน่นอน ทั้งๆที่ ชาวบ้านหมู่ที่7 หนองสองห้อง เจ้าของพื้นที่ยืนยัน100% ไม่มีใครเห็นด้วยแน่นอน พร้อมทั้งยืนยันว่าหากมีการยังดื้อรั้นจะสร้างโรงงานในพื้นที่ของหมู่บ้าน ตนจะนำชาวบ้านทั้งหมด ปิดถนนและไปประท้วงที่เทศบาลตำบลท่าตะโก
ในส่วนของเทศบาลตำบลท่าตะโก หลังจากที่กลุ่มสื่อมวลชนขอเข้าพบนายกเทศมนตรี นางสาวพรรณี ทายิดา นายกเทศบาลตำบลท่าตะโก แต่ไม่สามารถเข้าพบได้เนื่องจากเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ทางนายกฯ ยังไม่สะดวกให้สื่อมวลชนเข้าพบ และมีรายงานว่าทางเทศบาลได้ลบภาพ ข่าว ที่เคยนำคนไปศึกษาดูงานโรงงานกำจัดขยะไฟฟ้าออกหมดแล้ว
ซึ่งจากกรณีดังกล่าว ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หลายคนได้แสดงความคิดเห็นต่างๆกันว่า "ก่อนจะมีการก่อสร้างควรทำประชาคมและประชุมรวมทุกฝ่ายถึงผลดีและผลเสีย ก่อนจะมีการก่อสร้างในพื้นที่ของหมู่บ้านนั้นๆ เขาได้อะไรจากบ่อขยะ และถ้าได้รับผลกระทบทางตรงหรือทางอ้อมจะมีวีธีป้องกันและแก้ไขอย่างไร และเยียวยาชาวบ้านอย่างไร"
" คำว่า ขยะ ผลเสียมีแน่ๆคือกลิ่นเหม็นเน่าและน้ำเสีย จะมีระบบบำบัดอย่างไร และถ้ามีแอบปล่อยลงคูคลอง แม่น้ำและช่วงหน้าฝนใครได้รับผลกระทบก็ชาวบ้านอีกอยู่ดี ควรมีแผนผัง มีแบบในการก่อสร้างให้ชัดเจนวิธีจัดการต่างๆของขยะ"
" ไม่เอาเตาเผาขยะ วอนผู้ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูด้วยนะคะ ชาวบ้านเดือดร้อนกันค่ะ เฉพาะอำเภอเดียวขยะก็เยอะแล้ว นี่จะเอามาทุกอำเภอไม่ได้นะคะ ไม่เอาเตาเผาขยะ ไม่เอาขยะอำเภออื่น"
" ถ้าจะให้ดี หมู่บ้านละ1โรงเผาไปเลย จะได้ไม่เอาเปรียบกัน หรือ1อบต. 1 โรงเผาก็ดีนะ ขยะตำบลเดียวผลกระทบก่อจะน้อย แต่ถ้าหลายพื้นที่มารวมกัน ผลกระทบจะเป็นวงกว้าง คนในพื้นที่นั้นจะเดือดร้อนมากกับมลภาวะที่เป็นพิษและพื้นที่ทำมาหากิน ที่ดินบริเวณนั้นก็จะมีราคาถูก"
" ถ้าเป็นคุณคุณจะเอาเตาเผาขยะไปไว้ใกล้ๆบ้านคุณไหม ใครๆก็ไม่อยากได้หรอกครับ ทำไมเขาไม่ทำอำเภอใครอำเภอมัน มารวมกันแล้วจะอยู่กันอย่างไร มลพิษแค่ฝุ่นก็แย่พอแล้ว"
"อำเภออื่นเขาประท้วงไม่เอาเตาเผาขยะกัน สรุปไม่สร้าง แล้วก็ขนมาท่าตะโก วันนี้คนท่าตะโกไม่เอาบ้างคุณจะขนไปไหนต่อ"
" ขยะอยู่หน้าบ้านแค่ 1 คืนยังเหม็นแล้ว แล้วนี่กองเท่าภูเขาหมักหมมไม่รู้จักกี่วันกี่เดือนกี่ปี ชาวบ้านเค้าจะเหม็นกันขนาดไหน แล้วจะทำเตาเผา ไหนจะควันมลพิษทางอากาศ ชาวบ้านจะอยู่กันอย่างไร อยากจะรู้ว่าใจของคนที่เห็นด้วยจังว่าคิดได้ยังไง หรือเเค่ความเห็นแก่ตัว ความมักง่าย หรือแค่เงินไม่กี่บาท มันซื้อใจคนได้ขนาดนั้นเลยหรือ ถ้าพ่อแม่ญาติพี่น้องคุณต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้คุณจะยังยอมได้อยู่ไหม ฝากถึงคนที่เห็นด้วยนะคะ คิดเยอะๆค่ะ"
" ทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด มันมีที่ว่างเยอะแยะ ที่ๆประชาชนไม่มีสิทธิ์เข้าทำกิน ไม่รู้ว่า ผู้ว่ามันคิดไม่ออก หรือรัฐบาล มันคิดไม่ออก แทนที่ ทุกๆอำเภอน่าจะสร้างโรงกำจัดขยะ แต่นี่ ดันเอาไปต่างอำเภอ ต่างจังหวัดกัน เสียทั้งค่าขนส่งและเสียเวลา แดกกันเพลินคิดไม่ออกสิ"
"ทำไมไม่ให้แต่ละพื้นที่หาพื้นที่ขยะเป็นของตัวเองเลยเพื่ออนาคตข้างหน้าเลยยังไงมันก็ต้องเยอะรู้สึกจะทำอะไรมันเป็นผลประโยชน์ไปหมด"
" เทศบาลไพศาลีก็ไปทิ้งท่าตะโก คิดๆแล้วค่าน้ำมัน ค่าเสียเวลา ค่าสึกหรอยานพาหนะ เวลาเก็บก็ต้องเลื่อนเวลาไปอีก ทำไมไม่ทำให้มันง่ายสะดวกใกล้ งง.
สิ่งที่ตามคือควันเหม็นมาก"
" บอกเลยใครสร้างเลือกตั้งคราวหน้าไม่เลือก เรื่องขยะเราต้องช่วยกันลดขยะ ทำเกษตรทำปุ๋ยหมักกัน แยกขยะ"
"จริงๆแล้วบ่อขยะควรอยู่ห่างจากชุมชนอย่างน้อย 5 กิโลเมตร นี่อยู่ห่างจากชุมชน 400 เมตรครับ ที่เก่า ส่วนในโพสต์อยู่ติดนาผม อยู่ห่างบ้านผมแต่ 540 เมตร ผมวัดแล้ว"
ด้านความคืบหน้าในการดำเนินการ มีการรวมตัวกันของชาวบ้าน พร้อมทั้งจะลงชื่อขอคัดค้านการดำเนินการก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นใหม่ รวมทั้งจะขอให้มีการปรับระบบการบริหารจัดการบ่อขยะที่มีอยู่แล้วให้ดีกว่าเดิม ซึ่งบ่อขยะเดิมนี้มีพื้นที่นับสิบไร่ เป็นบ่อแบบกลบฝัง แต่ระบบการกลบฝังไม่เรียบร้อย จึงเกิดปัญหาหลายอย่าง เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษในชุมชน จะทำเรื่องร้องเรียนไปยังอำเภอท่าตะโก ให้ช่วยดูแลแก้ไขปัญหา
ที่หมู่ 7 บ้านหนองสองห้อง มีผู้อาศัยอยู่ 200-300 ครัวเรือน ประชากรประมาณ 1,000 คน ส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา ทำไร่มัน และรับจ้าง ในส่วนของบ่อขยะเดิมนั้นชาวบ้านก็ไม่ได้มีส่วนร่วมรับรู้ ทราบภายหลังว่ามีการหมกเม็ดเอารายชื่อที่ผู้ปกครองนักเรียนเข้าร่วมประชุมกับทางโรงเรียนมาใช้ในการดำเนินการว่าทำประชาคมแล้ว จึงทำได้สำเร็จ
ในครั้งนี้ทางผู้จะก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะ ยังไม่ยอมเลิกรา หลังจากถูกประท้วง ไม่สามารถดำเนินการประชุมได้แล้ว ยังมีการโทรติดต่อขอเคลียร์มายังแกนนำชาวบ้านหลายราย เพราะทราบว่ามีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสูงถึง 1,800 ล้านบาท นอกจากนี้ทางบริษัทฯยังมีการวางมัดจำเงินค่าที่ดินที่จะใช้ก่อสร้างไว้ 1 แปลง พื้นที่ประมาณ 50-60 ไร่
ด้านการติดต่อเพื่อดำเนินการนั้น มีรายงานว่าบริษัทที่จะก่อสร้างได้เดินทางไปพบผู้นำระดับสูงในหลายจังหวัดเพื่อนำเสนอโครงการก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะไฟฟ้า รวมทั้งมีการเสนอสิ่งตอบแทนให้ด้วยหากสามารถดำเนินการได้สำเร็จ รวมถึงมีการลงทุนจ่ายค่าหัวให้ผู้นำระดับอำเภอเพื่อเอาไปให้ชาวบ้านนอกพื้นที่ที่มาเข้าร่วมประชุม
สำหรับการต่อต้านนั้น กลุ่มแกนนำชาวบ้านยังมีการรวมตัวกันเพื่อเตรียมการรับมือ พร้อมที่จะต่อต้านไม่ให้เกิดการก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะไฟฟ้าในพื้นที่ได้ แต่ก็ยังมีผู้นำระดับหมู่บ้านพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกโดยเห็นแก่ประโยชน์ที่จะได้รับ
////