ศรีสะเกษ ผู้ว่าเชิญชวนเที่ยวชมสูดอากาศบริสุทธิ์ที่จุดชมวิวผาพญากูปรีชายแดนไทย -กัมพูชาด้าน อ.ภูสิงห์ เผยศรีสะเกษเป็นเมืองที่ไม่สามารถจะอธิบายยาว ๆ ได้ นอกจากอยากบอกว่าอะไร อะไรก็ดี ที่ศรีสะเกษ  

 

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 65 นายวัฒนา   พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนพร้อมด้วย พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา  นายประหยัด  ถิลา  วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ  นางดาลัด  หิรัญไพบูลย์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ศรีสะเกษ จ.อ.สมควร  สิงห์คำ  นายอำเภอภูสิงห์ และคณะข้าราชการ ได้เดินทางมาตรวจติดตามบรรยากาศการท่องเที่ยวตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา  ที่บริเวณจุดชมวิวผาพญากูปรี  ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งที่จุดชมวิวผาพญากูปรีแห่งนี้ มีนักท่องเที่ยวพากันมาชมความสวยงามของธรรมชาติกันอย่างคึกคัก   เนื่องจากว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอากาศบริสุทธิ์ รับสายลมเย็นสบายจากช่องโอโซน อยู่ติดกับเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งพระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ร่วมกับ พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ อดีต ผบ.กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ในขณะนั้น และทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี อบต.ไพรพัฒนา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจัดสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ  นักท่องเที่ยวทุกคนที่มาชมจุดชมวิวแห่งนี้ต่างมีสีหน้าสดชื่นที่ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกายเป็นการเพิ่มพลังความสดชื่นให้กับตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเช้าตรู่จะมีสายหมอกพัดผ่านเข้ามาทำให้บริเวณนี้เหมือนดินแดนในม่านหมอกที่สวยงามมาก  ซึ่งนักท่องเที่ยวพากันบันทึกภาพความสวยงามของผาพญากูปรีไว้เป็นที่ระลึก และชมความสวยงามตามธรรมชาติของต้นน้ำห้วยสำราญที่กั้นระหว่าง อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กับ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ซึ่งห้วยสำราญเป็นลำห้วยสำคัญที่ไหลลงไปสู่ตัว จ.ศรีสะเกษ ทำให้ประชาชนชาวศรีสะเกษหลายอำเภอได้ใช้น้ำจากลำห้วยนี้ในการอุปโภคบริโภคมานานกว่า 100 ปีแล้ว

นายวัฒนา พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  จุดชมวิวผาพญากูปรีก็เป็นจุดเช็คอินหนึ่งที่ได้มองเห็นวิวทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำห้วยสำราญซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่เป็นสายน้ำหลักของจังหวัดศรีสะเกษที่ไหลไปสู่พื้นที่อำเภอเมืองศรีสะเกษและเป็นเชิงสัญลักษณ์หนึ่งก็คือพญากูปรีที่มีหลักฐานบันทึกไว้ว่า กูปรีมีที่ป่าสุดท้ายที่จังหวัดศรีสะเกษแห่งนี้และจุดนี้เป็นจุดเชื่อมระหว่างชายแดนไทยกับกัมพูชาก็คือด่านชายแดนช่องสะงำซึ่งเชื่อมกับกัมพูชาเป็นประตูไปสู่นครวัดนครธมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ประเทศกัมพูชาระยะทางก็ไม่ไกลมากนัก อีกทั้งเรื่องของศรัทธาความเชื่อที่พี่น้องประชาชนมีต่อหลวงปู่สรวงที่วัดไพรพัฒนา ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้พากันเดินทางมาและพากันมาชมบรรยากาศที่มีความหลากหลายและถือโอกาสชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของจุดชมวิวผาพญากูปรีแห่งนี้ ซึ่งเป็นจุดที่มีอากาศบริสุทธิ์มาก นักท่องเที่ยวจะสามารถสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ปอดสร้างความสดชื่นให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี 
นายวัฒนา พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวต่อไปว่า  ตนจึงขอเชิญชวนไปถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยทั่วประเทศว่า  เมื่อเป็นช่วงที่มีการเปิดประเทศเปิดชายแดน ถ้าอยากจะไปสัมผัสอารยะธรรมโบราณที่นครวัดนครธม ประเทศกัมพูชา ช่องสะงำของจังหวัดศรีสะเกษก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่เป็นเส้นทางในการเดินทางไป ซึ่งอำเภอภูสิงห์ของเราก็จะมีในเรื่องความศรัทธาต่อหลวงปู่สรวง พี่น้องพุทธศาสนิกชนก็ได้พากันมากราบไหว้สักการะและได้มาชื่นชมกับธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ ที่จุดชมวิวผาพญากูปรีแห่งนี้ ก็จะได้หลากรสหลายบรรยากาศ จึงขอเชิญชวนพี่น้องนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศมาท่องเที่ยวที่จังหวัดศรีสะเกษ เมืองที่ไม่สามารถจะอธิบายยาว ๆ ได้ นอกจากอยากบอกว่าอะไร อะไรก็ดี ที่ศรีสะเกษครับ//// 

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ