ศรีสะเกษ ติดเชื้อโควิดยอดพุ่งสูงกว่า 500 รายเสียชีวิตแล้ว 156 ราย  ยอดผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของเขตสุขภาพที่ 10 ขณะที่ นอภ.กันทรลักษ์ห่วงใยประชาชนเชิญชวนให้ไปฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ป้องกันโรคโควิด - 19 ให้ได้ร้อยละ 100 ของประชาชากร  

 

เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จ.ศรีสะเกษ (ผู้ป่วยที่ยืนยันด้วย RT-PCR) ตั้งแต่ระลอกเมษายน 2564 ณ วันที่ 2 เม.ย. 2565 เพิ่มวันนี้ จำนวน  500 ราย  เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย เสียชีวิตสะสม 156 ราย รักษาหายเพิ่มวันนี้ 402 ราย รักษาหายสะสม 32,142 ราย รักษาอยู่ 846 ราย  ซึ่งข้อมูลเมื่อวานนี้ ( 1 เม.ย. 65)  มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม จำนวน  570 ราย เสียชีวิต 3 ราย  ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อกระจายทั่วทุกอำเภอแล้ว  โดยอำเภอที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดคือ                                            อ.กันทรลักษ์ อำเภอขนาดใหญ่ที่สุดของ จ.ศรีสะเกษ มีผู้ติดเชื้อจำนวน  5,354 ราย รองลงมาคือ อ.เมือง                     ศรีสะเกษ จำนวน 3,316 ราย  อ.ขุขันธ์ จำนวน  3,000 ราย  อ.ขุนหาญ จำนวน 2,763 ราย   ซึ่งจากยอดผู้ติดเชื้อของ จ.ศรีสะเกษ ที่พุ่งสูงมากนี้ ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันที่ 2 เม.ย. 65 ของเขตสุขภาพที่ 10 ปรากฏว่า  จ.ศรีสะเกษพุ่งสูงเป็นอันดับ 1 จำนวน 500 ราย รองลงมาคือ จ.อุบลราชธานี จำนวน  436 ราย                              จ.ยโสธร  128 ราย จ.อำนาจเจริญ 93 ราย และ จ.มุกดาหาร 79 ราย

นายสุกิจ   เหลืองสกุลไทย  นอภ.กันทรลักษ์ เปิดเผยว่า จากข้อมูลวันที่ 2 เม.ย.65  ระบุว่า จ.ศรีสะเกษ มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 500 ราย (มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด - 19 ครบทั้ง 22 อำเภอแล้ว) วันนี้ อ.กันทรลักษ์เรา มีผู้ป่วยติดเชื้อ 55 ราย โดยติดเชื้อในพื้นที่ 53 ราย มาจากต่างจังหวัด 2 ราย ยอดสะสม 5,354 ราย  มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ยอดสะสม 28 ราย จึงต้องเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด - 19 อย่างเคร่งครัดและจริงจัง โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงแพร่ระบาดติดเชื้อพื้นที่ควบคุม 20 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 47 จังหวัด และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 10 จังหวัด หากเดินทางกลับบ้านหรือภูมิลำเนาขอให้แจ้งล่วงหน้า หากยังไม่ฉีดวัคซีนครบโด๊ส หรือกรณียังไม่ฉีดวัคซีนเลยต้องมีผลตรวจ ATK หรือ RT-PCR ไม่ติดเชื้ออย่างน้อย 72 ชั่วโมงมายืนยัน มิฉะนั้นจะต้องกักกันตัวเอง 14 วัน และตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง โดยแยกห่างจากคนในครอบครัวและชุมชนเพื่อเฝ้าสังเกตอาการ  

นายสุกิจ   เหลืองสกุลไทย  นอภ.กันทรลักษ์ เปิดเผยต่อไปว่า ตนมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาว                             อ.กันทรลักษ์ทุกคนเป็นอย่างมาก และต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือ สถานการณ์การติดเชื้อภายใน                                อ.กันทรลักษ์ยังมีต่อเนื่องเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ (เกิดจากพื้นที่ตลาด การรวมกลุ่มกันจัดกิจกรรมและมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนทุกคนถือปฏิบัติตามมาตรการของทางราชการในการป้องกันโรคโควิดแบบครอบจักรวาลอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงขอให้กักตัวเอง 14 วัน  แยกออกห่างจากคนในครอบครัวและชุมชนอย่างเคร่งครัดจริงจัง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรค  จึงขอเชิญพี่น้องประชาชนชาว อ.กันทรลักษณ์ทุกท่าน ไปฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ป้องกันโรคโควิด - 19 ให้ได้ร้อยละ 100 ของประชากร////

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ