เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 21 ม.ค. 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่ตลาดสดเทศบาล 1 ต.เมืองเหนือ อ.เมือง  จ.ศรีสะเกษ  นายอนุรัตน์  ธรรมประจำจิต  รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย  นายชัยรัตน์  บุญส่ง  พาณิชย์  จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์  แสงกล้า  รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ  นางฐพัชร์รดา  ธนินทร์จิรานนท์  หัวหน้าสำนักงานจังหวัดศรีสะเกษ  และคณะส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ออกทำการตรวจสอบการกักตุนสินค้าเนื้อหมูอันเป็นสาเหตุให้สินค้าแพง และตรวจสอบการจำหน่ายเนื้อหมู ไก่ ไข่ และสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ  เนื่องจากว่า ขณะนี้มีสินค้าหลายประเภทมีการปรับราคาสูงขึ้นตามกลไกของตลาด  โดยคณะของ รอง ผวจ.ศรีสะเกษ  ได้ตรวจบริเวณเขียงหมูที่ขายเนื้อหมูพบว่า มีพ่อค้าแม่ค้ากำลังขายเนื้อหมูให้กับประชาชนที่มาซื้อเนื้อหมูกันอย่างคึกคัก  มีการติดป้ายบอกราคาเนื้อหมูไว้ที่ราคา กก.ละ 220  บาท  อย่างชัดเจน  ขณะที่ร้านขายเนื้อหมูสดบางแห่งมีราคาเนื้อหมู กก.ละ 195 บาท  ส่วนร้านขายไก่พบว่า ราคาไก่สดทั้งตัว  ราคา กก.ละ  90 บาท เนื้อไก่สด กก.ละ 100 บาท  ไข่ไก่ก็มีการปรับราคาสูงขึ้น แต่ว่า ประชาชนก็ยังมาจับจ่ายซื้อสินค้ากันตามปกติ  เนื่องจากว่า เป็นสินค้าจำพวกอาหารที่จำเป็นต้องใช้ในการทำเป็นอาหารเพื่อจำหน่ายและต้องกินเป็นอาหารประจำวัน  ซึ่ง รอง ผวจ.ศรีสะเกษและคณะได้พูดคุยกับพ่อแม่ค้าทุกคนพร้อมทั้งขอความร่วมมือไม่ให้จำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินไปเพราะจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

นายอนุรัตน์  ธรรมประจำจิต  รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  วันนี้ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษได้มอบหมายให้ตนพร้อมด้วยพาณิชย์ จ.ศรีสะเกษ ตำรวจภูธรศรีสะเกษ ปศุสัตว์ จ.ศรีสะเกษ เทศบาลเมืองศรีสะเกษและศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ ได้มาตรวจติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคโดยเพราะอย่างยิ่งที่ทุกคนรับทราบกันก็คือเกี่ยวกับราคาหมูซึ่งมีการปรับราคาสูงขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นส่วนหนึ่งที่เราทราบกันคือเรื่องของซับพลาย เรื่องของหมูที่ค่อนข้างจะขาดตลาด ซึ่งจากการที่ตนได้สอบถามผู้ประกอบการที่ขายเนื้อหมูอยู่หน้าเขียงได้รับทราบว่า พ่อค้าแม่ค้าส่วนหนึ่งจำเป็นต้องปรับราคาสูงขึ้นแต่ส่วนหนึ่งที่ได้รับฟังแล้วตนต้องขอชื่นชมก็คือ พ่อค้าแม่ค้าที่ขยับตัวราคาเนื้อหมูสูงขึ้นนั้น ได้ขยับราคาเนื้อหมูไม่ให้สูงมากเกินไป  และได้กำไรส่วนต่างไม่มากนัก เพราะว่าต้องพยุงลูกค้าเอาไว้ไม่เช่นนั้นลูกค้าจะไม่มาซื้อซึ่งเป็นลูกค้าขาประจำ 

นายอนุรัตน์  ธรรมประจำจิต  รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า  แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ทางพ่อค้าแม่ค้าให้ความร่วมมือก็คือมีพ่อค้าที่เข้าร่วมกับโครงการของกระทรวงพาณิชย์ในจุดจำหน่ายสินค้าสุกรราคาถูก ซึ่งทาง  จ.ศรีสะเกษ  มีอยู่จำนวน 7 จุด ครอบคลุมในหลายอำเภอ   และจากการที่ได้มาตรวจตลาดในครั้งนี้พบว่าตามหลักกฎหมายในการจำหน่ายสินค้าก็จะต้องมีการติดป้ายราคา ซึ่งปรากฏว่าได้รับความร่วมมือจากพ่อค้าแม่ค้าเป็นอย่างดียิ่งโดยทางเทศบาลเมืองศรีสะเกษก็ได้กรุณาช่วยกำกับติดตามให้คำแนะนำ ทางพ่อค้าแม่ค้าก็ได้ติดป้ายบอกราคาเอาไว้  อย่างน้อยก็บอกกล่าวประชาชนผู้บริโภคที่ได้มาซื้อสินค้านี้เพื่อจะได้รู้ว่าสินค้าราคาเท่าไหร่ซึ่งในบริเวณนี้ก็มีสินค้าหลายร้าน ทำให้มีทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้พอสมควร///////

ภาพ – ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ  จ.ศรีสะเกษ