ศรีสะเกษ คืบหน้านักเรียนโดนเพื่อนแกล้งจนต้องหามส่งโรงพยาบาล ยายของนักเรียนที่ก่อเหตุทำร้ายเพื่อนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพร้อมที่จะดูแลช่วยเหลือรักษาพยาบาล  

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่น้องป๋อ  อายุ  6  ขวบ  นักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งติดกับชายแดนไทย - กัมพูชา ด้าน อ.ขุนหาญ  จ.ศรีสะเกษ  ได้เล่นกับเพื่อนและได้หยอกล้อกันอย่างรุนแรงมาก  ทำให้ล้มปากแตก  ฟันโยกต่อมาขณะที่น้องป๋อกำลังจะเดินกลับบ้านหลังเลิกเรียนได้เกิดช็อกหมดสติ  น้ำลายฟูมปาก  ต้องรีบนำตัวส่งไปยัง  รพ.ขุนหาญ  เพื่อให้แพทย์รักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน  ต่อมา  คณะครูได้ไปเยี่ยมพบอาการน้องป๋อดีขึ้นกว่าเดิมมาก  ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อวันที่  2  ธ.ค. 2564  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่  ร.ร.หมู่บ้านป่าไม้ห้วยจันทร์  ต.ห้วยจันทร์  อ.ขุนหาญ  จ.ศรีสะเกษ  ปรากฏว่าบรรยากาศภายในโรงเรียนยังคงเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติขณะที่ครูปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น  พูดเพียงสั้นๆ ว่า เป็นเรื่องของการหยอกล้อของเด็กที่เล่นกันแรงมากเกินไป  ขณะที่บริเวณด้านหน้าโรงเรียน  ชาวบ้านที่ทราบข่าวนี้ต่างพากันจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าไม่น่าที่จะเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นมา

ชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของน้องป๋อ  เล่าว่า  ปกติแล้วเด็กที่ก่อเหตุกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นเพื่อนสนิทกัน  เรียนกันมาตั้งแต่ชั้นเด็กเล็ก  และทั้ง 2 คน  จะรักกันมาก มักจะมีการเล่นกันอย่างรุนแรงตามประสาเด็กตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มักจะเล่นกันอย่างรุนแรง แต่ว่าน้องป๋อสุขภาพจะไม่ค่อยแข็งแรง  จะออกกำลังกายหรือเล่นที่ต้องใช้กำลังหนัก ๆไม่ค่อยได้  เนื่องจากว่าสุขภาพไม่ค่อยดี  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นช่วงประจวบเหมาะที่เล่นกันแรง  แล้วน้องป๋อก็มีอาการบาดเจ็บขึ้นมาอย่างรวดเร็ว  เพราะสุขภาพไม่แข็งแรง  แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก  และคาดว่าแพทย์จะให้น้องป๋อออกจากโรงพยาบาลได้ในวันนี้

ทางด้าน  นางลำไย  พงษ์สุวรรณ อายุ  63  ปี  อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 5 บ้านห้วยจันทร์  ต.ห้วยจันทร์  อ.ขุนหาญ  จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นยายของน้องเอฟที่ก่อเหตุเล่นกันแรง  ทำให้น้องป๋อได้รับบาดเจ็บ  กล่าวว่า  ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก  ไม่คิดว่าการเล่นของเด็กที่รุนแรง  จะทำให้น้องป๋อได้รับบาดเจ็บเช่นนี้  ทั้งที่เด็ก 2 คน  เป็นเพื่อนสนิทกันและรักกันมาก  ครอบครัวทั้ง  2  ครอบครัวก็สนิทกัน  เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ ตนจะร่วมกับโรงเรียนจะรับผิดชอบดูแลการรักษาพยาบาลของน้องป๋ออย่างเต็มที่  เพราะว่าเด็กทั้ง 2 คน  เหมือนคนในครอบครัวเดียวกันนั่นเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า  สำหรับการเจรจาระหว่างทั้ง  2  ฝ่าย เพื่อตกลงกันรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น  ทางโรงเรียนจะได้นัดหมายญาติพี่น้องของผู้บาดเจ็บและฝ่ายผู้ที่ก่อเหตุ  เพื่อเจรจากันในการเรื่องการจ่ายค่าเสียหาย  รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นในสัปดาห์หน้านี้  หลังจากที่น้องป๋อออกจาก รพ.ขุนหาญ  แล้ว

ภาพ – ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ  จ.ศรีสะเกษ