ศรีสะเกษ ผู้ว่าห่วงใยประชาชนสั่งทุกอำเภอเร่งสำรวจผู้ประสบภัยหนาวเพื่อช่วยเหลือด่วน  ขณะที่ผู้ใจบุญหอบผ้าห่มกันหนาว  13,000 ผืนมามอบให้ประชาชนที่ขาดแคลนแล้ว  

 


 
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ร.ร.บ้านหว้าน ต.หว้านคำ  อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นางมัลลิกา  พุฒิชาติ  นายกเหล่ากาชาดศรีสะเกษ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีรับมอบผ้าห่มกันหนาว จากนายอดิศักดิ์   เทพอาสน์ ประธานคณะกรรมการโครงการไทยเบฟ บรรเทาสาธารณภัยและจิตอาสา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)  ตามโครงการ“ไทยเบฟ รวมใจต้านภัยหนาว”ปีที่ 22 ประจำปี 2564  จำนวน 13,000 ผืน  โดย ผวจ.ศรีสะเกษและคณะได้ส่งมอบผ้าห่มกันหนาวให้กับประชาชนชาวบ้านหว้านและชาว อ.ราษีไศล ที่ขาดแคลนจำนวน 1,000 ผืน ทั้งนี้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น และจะได้นำผ้าห่มกันหนาวไปจัดสรรมอบให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้และขาดแคลนเครื่องกันหนาวในชนบท จ.ศรีสะเกษต่อไป พร้อมทั้งได้รับมอบอุปกรณ์กีฬาและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพื่อส่งมอบต่อให้กับ ผอ.ร.ร.บ้านหว้านและคณะครู นำเอาไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน  โดยมีนายบุญประสงค์  นวลสายย์ หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะ หน.ส่วนราชการและประชาชนชาว ต.หว้านคำ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ  มาให้การต้อนรับและร่วมพิธีรับมอบผ้าห่มกันหนาวในครั้งนี้

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า ในหน้าหนาวนี้มีหลายสิ่งหลายประการที่จะต้องดำเนินการควบคู่กันไปประการแรกคือทางจังหวัดได้มีแนวทางให้ทางอำเภอและทางพื้นที่ได้มีการเฝ้าระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องสถานการณ์ของภัยหนาวติดตามในเรื่องของอุณหภูมิการดูแลพี่น้องประชาชนที่ขาดแคลนเครื่องกันหนาวต่าง ๆ ซึ่งได้มีการสำรวจทั้งจังหวัดไว้แล้ว ว่ามีความสำคัญจำเป็นก็มีการจัดเรียงลำดับไว้แล้วตั้งแต่ระดับหมู่บ้านตำบลขึ้นมา ซึ่งข้อมูลการสำรวจความต้องการเครื่องกันหนาวสงเคราะห์ประชาชนในพื้นที่ จ.ศรีละเกษ ประจำปี 2564 มีประชาชนในพื้นที่มีความต้องการเครื่องกันหนาวจำนวน 223,993 คน แยกเป็น ผู้สูงอายุ 106,413 คน  เด็กไร้ผู้อุปการะ 3,218 คน คนพิการทุพพลภาพ 27,112 คน  ผู้มีรายได้น้อย 33,280 คน และผู้ประสบความเดือดร้อนทั่วไป 53,970 คน


ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวต่อไปว่า ส่วนประการที่ 2 ก็คือเมื่อมีหน่วยงานราชการหากมีระเบียบดำเนินการใช้ได้  ก็สามารถใช้ตัวนี้ในการช่วยเหลือประชาชน ก็ต้องดูระเบียบที่เกี่ยวข้องว่าอุณหภูมิเท่าไหร่ระยะเวลาเท่าไหร่กี่วัน ในส่วนที่ 3 หากมีองค์กรการกุศลต่างๆหรือภาคเอกชนต่างๆที่เข้ามาให้การสนับสนุนเราก็ได้มีการดำเนินการที่จะกระจายไปให้ทั่วถึงทั้ง 22 อำเภอและตามลำดับความสำคัญ ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อมาก็คือการเฝ้าระวังในเรื่องของอัคคีภัยเพราะว่าส่วนใหญ่จะมากับลมและมาในหน้าหนาว เราก็ได้มีการเตรียมพร้อมในเรื่องของเครื่องไม้เครื่องมือรวมทั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยในระดับจังหวัดอำเภอในการช่วยเหลือประชาชนรวมทั้งการแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนนั้นได้เฝ้าระวังในเรื่องของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ หนาวก็อาจจะก่อไฟผิง ซึ่งก็อาจจะมอดดับไม่สนิทหรือไม่ก็จากการที่กราบไหว้บูชาพระต่างๆ ซึ่งก็อาจจะเป็นอุบัติเหตุทำให้เกิดอัคคีภัยขึ้นมาได้ อีกส่วนหนึ่งก็คือในเรื่องของการเตรียมการบางแห่งอาจจะมีการจัดงานลอยกระทงก็ให้มีการแจ้งเตือนในเรื่องของสถานที่ในการลอยกระทงไม่ว่าจะเป็นโป๊ะเป็นสะพานหรือว่าตลิ่งก็ให้มีความมั่นคงแข็งแรงซึ่งอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ นี่คือการแจ้งเตือนและการเฝ้าระวังของ จ.ศรีสะเกษในช่วงที่เข้าสู่หน้าหนาวปีนี้/////

ภาพ / ข่าว   ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ