ศรีสะเกษ แม่ของผู้เสียชีวิตประกาศไม่ยอมยกโทษให้กับชายที่เมาเหล้าแล้วขับรถชนลูกสาวและลูกเขยเสียชีวิต 2 ราย ส่วนหลาน 2 คนบาดเจ็บสาหัส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้เกิดเหตุรถปิ๊กอัพพุ่งชนท้ายรถ จยย.ที่มีพ่อแม่และลูกสองคนรวมเป็น 4 คนนั่งซ้อนท้ายกันมาลากศพและรถ จยย.ติดใต้ท้องรถปิ๊กอัพยาวไปไกลประมาณ 200 เมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2รายเป็นพ่อกับแม่ ส่วนลูกชาย 1 คนและลูกสาว 1 คนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19:00 น. ของคืนวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ที่ถนนสายบ้านสะแม๊ะ - บ้านตาโกน ต.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ โดยคนขับรถปิคอัพซึ่งอยู่ในภาพมึนเมาอย่างหนัก ตร.สภ.เมืองจันทร์สามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 64 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 8 บ้านเขวา ต.หนองใหญ่ อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นที่ตั้งศพของนางสาวยุวดี พลเยี่ยม อายุ 27 ปี ที่ถูกรถปิคอัพชนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ พบว่าบรรยากาศภายในงานศพมีญาติพี่น้องพากันมาเคารพศพอย่างต่อเนื่องโดยนางสาว พลเยี่ยม อายุ 52 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพหลังทราบข่าวว่าลูกสาวลูกเขยเสียชีวิต จึงได้กลับลงมาบ้าน โดยได้นำศพมาตั้งไว้ที่บ้านของคุณยายตั้งแต่คืนวันที่ 4 ต.ค. 64 เป็นต้นมาและจะทำพิธีฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.64) โดยหลังจากเกิดเหตุแล้วได้มีญาติพี่น้องของคนขับรถที่ก่อเหตุได้มาช่วยงานศพและนำเอาสิ่งของมาช่วยงาน ส่วนคนขับรถที่ก่อเหตุไม่ได้มาช่วยงานศพแต่อย่างใด ซึ่งหากว่าจะมาขอขมาศพลูกสาวของตน ตนจะขอประกาศตรงนี้ว่าจะไม่ยกโทษให้กับคนขับรถที่ชนลูกสาวของตนเสียชีวิตอย่างเด็ดขาด เพราะว่าจิตใจอำมหิตเกินไปที่ขับรถชนแล้วลากรถ จยย.และผู้เสียชีวิตยาวไปไกลกว่า 200 เมตรทำให้ลูกสาวของตนกับสามีซึ่งเป็นลูกเขยของตนเสียชีวิตทั้ง 2คน ส่วนหลานทั้ง 2 คนอาการบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศรีสะเกษ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 6 ต.ตาโกน อ.เมืองจันทร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งงานศพของ นายสมปอง ลุนลา อายุ 29 ปีซึ่งเป็นสามีของนางสาวยุวดีที่เสียชีวิตพร้อมกัน พบว่าบรรยากาศภายในงานศพเป็นไปด้วยความเศร้าสร้อยมีญาติพี่น้องมาร่วมพิธีศพอย่างต่อเนื่องเช่นกันโดยได้กำหนดฌาปนกิจศพพร้อมกันในวันพรุ่งนี้ ( 7 ต.ค.64)
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบที่บริเวณเหตุที่รถชนสองสามีภรรยาเสียชีวิตได้พบกับ กลุ่มชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์โดยได้เล่ารายละเอียดช่วงเกิดเหตุว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 4 ต.ค. 64 พวกตนได้ยินเสียงดังตูมสนั่นคล้ายกับเสียงยางรถระเบิด แต่ต่อมาเมื่อมีคนออกมาดูได้พบรถปิกอัพขับลากส่ายไปมาโดยมีสะเก็ดไฟพุ่งออกมาจากใต้ท้องรถ พวกตนจึงได้รีบออกมาดูและพบว่ามีเด็ก 2 คนได้รับบาดเจ็บนอนอยู่ข้างทาง โดยห่างออกไปอีกประมาณ 10 เมตรพบศพของผู้หญิงคนหนึ่งทราบต่อมาภายหลังว่า เป็นแม่เด็กทั้ง 2 คน นอนคว่ำหน้าอยู่ข้างถนน
พวกตนจึงได้ขับรถ จยย.ขับติดตามรถปิคอัพคันที่เกิดเหตุไป ปรากฏว่าห่างออกไปประมาณ 100 เมตรพบศพของชายคนหนึ่งทราบว่า เป็นสามีของหญิงที่เสียชีวิตและเป็นพ่อของเด็กทั้ง 2 คน ร่างกายได้รับบาดแผลตามร่างกายเสียชีวิตคาที่ พวกตนได้ขับรถ จยย.ตามรถปิคอัพคันที่ก่อเหตุไปพบว่า รถปิ๊กอัพคันที่เกิดเหตุได้พุ่งตกลงไปข้างทาง และพบชายคนหนึ่งมีอาการมึนเมาเดินออกมาจากตัวรถ ซึ่งพวกตนเชื่อมั่นว่า รถปิ๊กอัพคันที่เกิดเหตุไม่สามารถขับหลบหนีต่อไปได้นั้นเนื่องจากเป็นเพราะอิทธิฤทธิ์ของศาลเจ้าปู่ตาที่ปกปักรักษาชาวบ้านบริเวณนี้ที่ไม่ยอมให้คนผิดขับขี่รถปิคอัพชน 2 สามีภรรยาและลูก 2 คนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในครั้งนี้ไม่ให้หลบหนีไปได้ ส่วนคนขับรถที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เมืองจันทร์ สามารถจับกุมตัวได้แล้วและได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป/////
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ