วันที่ 22 ธ.ค. 2568 เวลา 13.30 น.เป็นต้นไป นายศราวุธ เพชรพนมพร นายก อบจ.อุดรธานีมอบหมายให้ นายดนัย ขาวขำ ที่ปรึกษานายก อบจ.อุดรธานี  เข้าร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ พลทหารวสันต์ ขานหัวโทน กำลังพลจาก กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 ค่ายเจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี ซึ่งเสียชีวิตจากการปกป้องอธิปไตยของไทย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา  เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2568 (โดนสะเก็ดระเบิดจากเครื่องยิงลูกระเบิดของฝ่ายตรงข้าม ) ณ ศาลาการเปรียญวัดทุ่งสว่างบ้านเทื่อม ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

             โดยมี มีพลเอก อัฏฐพล ลัดใหม่กุลวัฒน์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก เดินทางมาเป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพพลทหารวสันต์ ขานหัวโทน นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นายอำเภอ ส.อบจ.อุดรธานี อ.บ้านผือ เขต 3 นายก อปท. ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นและประชาชนชาว จ.อุดรธานี ร่วมในพิธี และร่วมไว้อาลัย จำนวนมาก เพื่อแสดงความอาลัย และร่วมส่งดวงวิญญาณ อย่างสมศักดิ์ศรี และ สมเกียรติวีรบุรุษทหารกล้าของชาวไทย และ กองทัพไทย ทั้งนี้ ตามที่ จ.อุดรธานีได้รับแจ้งจากมณฑลทหารบกที่ 24 ว่า มีกำลังพลจาก กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 ค่ายเจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เสียชีวิตจากการปะทะกับฝ่ายตรงข้าม เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2568 ที่ผ่านมา เนื่องจากกำลังพลโดนสะเก็ดระเบิดจากเครื่องยิงลูกระเบิด ของฝ่ายตรงข้าม ส่งผลให้กำลังพลเสียชีวิต จำนวน 1 นาย คือ พลทหารวสันต์ ขานหัวโทน ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 131 หมู่ที่ 13 ต.เขือน้ำ อ.อบ้านผือ จ.อุดรธานี ได้ทำการย้ายศพมายัง จ.อุดรธานี เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ธ.ค.2568  และบำเพ็ญกุศลศพ พลทหารวสันต์ ขานหัวโทน ในพระราชานุเคราะห์ ระหว่างวันที่ 19 - 23 ธ.ค.2568

           โดยในวันนี้(22 ธ.ค.2568) ได้ประกอบพิธี ฯ ดังนี้ เวลา 10.00 น. ร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลพระราชทานในการออกเมรุ เวลา 13.30 น. ร่วมพิธีพิธีสวดมาติกา และ เวลา 15.30 น ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ ศาลาการเปรียญวัดทุ่งสว่างบ้านเทื่อม ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และในส่วนของวันพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.2568) เวลา 07.00 น.ร่วมพิธีพระราชทานผ้าไตรและภัตตาหารสามหาบในการเก็บอัฐิ ณ ศาลาการเปรียญวัดทุ่งสว่างบ้านเทื่อม ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

อบจ.ทันสมัย ใส่ใจทุกมิติ พัฒนาอย่างยั่งยืน
//////////////////////////////////////////////////////////////////////