องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
วันพุธที่ 10 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 10.30 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปยังฐานปฏิบัติการเจ้าแม่มะลิกา บ้านสันต้นม่วง ตำบลมะลิกา อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเชิญถุงพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่ผู้ปฏิบัติงานหน่วยความมั่นคง จำนวน 52 ถุง โอกาสนี้ องคมนตรีตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล และให้โอวาทแก่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับงานด้านความมั่นคงในพื้นที่
ช่วงบ่าย องคมนตรีและคณะ เดินทางไปยังโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ดอยฟ้าห่มปก ตำบลแม่สาว อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเชิญสิ่งของพระราชทาน ประกอบด้วย เสื้อกันหนาวเด็ก มอบให้แก่เด็กในพื้นที่โครงการ จำนวน 60 ตัว และถุงพระราชทาน มอบให้แก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่โครงการฯ จำนวน 56 ถุง ได้แก่ ราษฎรในพื้นที่ จำนวน 14 ถุง และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ จำนวน 42 ถุง จากนั้น เยี่ยมชมผลการดำเนินงานโครงการและผลิตภัณฑ์ของชุมชน สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2544 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จฯ ทอดพระเนตรพื้นที่เป็นครั้งแรก และทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดตั้ง “โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ดอยฟ้าห่มปก” ขึ้น โดยคัดเลือกราษฎรที่ยากจน ไม่มีที่ดินทำกิน ไม่มีที่อยู่ ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีความขยัน ให้เข้าไปอยู่อาศัยและสร้างบ้านพักจัดที่ดินทำกินให้ ตลอดจน การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น จากนั้น จึงมอบหน้าที่ให้ราษฎรดูแลรักษา และฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณใกล้เคียงให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ การดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ได้ดำเนินการแผนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยการจัดหากล้ากาแฟ ก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่อสร้างบ่อพักน้ำเพื่อการเกษตร และระบบกระจายน้ำเพื่อการเกษตร พร้อมทั้ง ดำเนินการแผนงานอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ดิน และน้ำ โดยการปลูกหญ้าแฝก ก่อสร้างฝายต้นน้ำแบบคอกหมู และฝายต้นน้ำแบบกึ่งถาวร และในปีงบประมาณ 2569 โครงการฯ มีแผนดำเนินการจัดทำแปลงตัวอย่างถาวรสำรวจความหลากหลายทางระบบนิเวศ ปลูกหญ้าแฝก ก่อสร้างฝายต้นน้ำแบบคอกหมูและฝายต้นน้ำแบบถาวร เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้ง ดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยการสร้างป่าพื้นบ้าน อาหารชุมชน ปรับปรุงถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ส่งเสริมปลูกป่าระบบวนเกษตรเพื่อทดแทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยว และก่อสร้างโรงเรือนตากกาแฟ
โดยมีผลสัมฤทธิ์ของโครงการในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย ด้านการพัฒนาชีวิต โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ดอยฟ้าห่มปก ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2544 โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำราษฎรชาวไทยภูเขามาอาศัยและทำกินในพื้นที่โครงการและทดลองให้คนอยู่คู่กับป่าได้อย่างเหมาะสมและยั่งยืน ปัจจุบันมี 3 ชนเผ่า ได้แก่ มูเซอ ลีซอ และอาข่า การดำเนินการด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่โครงการได้ปรากฏความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
ด้านสังคม การบริหารจัดการราษฎรผู้ยากไร้ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการฯ ได้มีที่อยู่อาศัย มีที่ทำกินเป็นหลักแหล่ง ราษฎรในพื้นที่โครงการฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหายาเสพติด มีการประกอบอาชีพที่มั่นคง มีรายได้จากการรับจ้างในพื้นที่โครงการฯ เฉลี่ย 30,000 บาท/ปี/ครัวเรือน
ด้านทรัพยากรป่าไม้ สร้างจิตสำนึกแก่ราษฎรในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าต้นน้ำลำธาร ให้เกิดความหวงแหนทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อม จัดการฟื้นฟู ดูแลรักษาพื้นที่โดยการปลูกป่าเพื่อรักษาระบบนิเวศ ปลูกป่าไม้ใช้สอย และปลูกป่าหวาย เพื่อปรับปรุงระบบนิเวศ มีการปลูกป่าส่งเสริมการทำแปลงสาธิตธนาคารอาหารชุมชน ดำเนินการปลูกหญ้าแฝก สร้างฝายต้นน้ำลำธาร และทำแนวกันไฟป่า
ด้านการเกษตร ได้ส่งเสริมให้ราษฎรปลูกไม้ผล เช่น พลับ พีช อาโวคาโด้ แมคคาเดเมีย ชาเลือดมังกร และกาแฟ ปัจจุบันกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ สามารถสร้างรายได้หลักให้กับราษฎร จากเดิมตั้งแต่เริ่มต้นโครงการฯ มีรายได้เฉลี่ย 50,000 บาท/ปี/ครัวเรือน ปัจจุบันมีรายได้เพิ่มขึ้น เฉลี่ย 200,000 บาท/ปี/ครัวเรือน
ด้านปศุสัตว์ ส่งเสริมให้ราษฎรเลี้ยงไก่สำหรับบริโภคในครัวเรือน และเลี้ยงหมู มีการฉีดวัคซีนให้กับสัตว์เลี้ยง พร้อมให้คำแนะนำในการเลี้ยงและดูแลรักษา
ด้านการประมง มีการดำเนินการถ่ายทอดความรู้และสาธิตการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่สูง ได้แก่ ปลาเรนโบว์เทราต์ ปลาสเตอร์เจียน และปลากดหลวง ส่งเสริมให้ราษฎรขุดบ่อเลี้ยงปลาทั้งในบ่อดิน บ่อพลาสติก และบ่อซีเมนต์ ให้คำแนะนำแก่ราษฎรในการเลี้ยงปลา และแจกพันธุ์ปลา ได้แก่ ปลานิล เพื่อบริโภคภายในครัวเรือน
ด้านความมั่นคง ดำเนินการประสานงานคุ้มครองป้องกันรักษาความปลอดภัยชุมชน ตลอดจนสร้างจิตสำนึกในการเป็นคนไทย มีความจงรักภักดีในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร่วมกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ด้านการควบคุม คือ ประโยชน์ที่ได้รับจากการควบคุมกระบวนการของระบบนิเวศตามธรรมชาติ ได้แก่ การควบคุมระบบภูมิอากาศ การควบคุมการไหลของน้ำ การป้องกันการพังทลายหน้าดิน และการควบคุมรักษาความหลากหลายชีวภาพ
ด้านวัฒนธรรม คือ การเสริมสร้างจิตวิญญาณ การพัฒนาด้านสติปัญญา และนันทนาการ ได้แก่ ความหลากหลายทางชาติพันธุ์ คุณค่าทางจิตวิญญาณ และศาสนา สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน เยาวชนสามารถเข้าถึงรากฐานของการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ด้านการสนับสนุน คือ การเพาะชำกล้าไม้ท้องถิ่นเพื่อแจกจ่ายและส่งเสริมชุมชุนปลูกไม้ท้องถิ่นเพื่อลดการทำลายป่า จัดหาและแจกจ่ายกล้าไม้ผลเมืองหนาว เพื่อสร้างรายได้จากผลผลิต และการส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจแจกจ่ายกล้าไม้ให้กับราษฎรผู้ที่สนใจ หรือหน่วยงานราชการเพื่อนำไปปลูกในพื้นที่อื่น ๆ
นอกจากการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น ราษฎรยังมีส่วนร่วมและมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ให้มีความอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งอาหารให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็งและสามารถพึ่งตนเองได้ต่อไป ทั้งในส่วนของการได้รับการดูแลด้านสาธารณสุข การมีสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่เหมาะสม ตลอดจนได้รับการพัฒนาด้านความรู้ทั้งในการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตประจำวัน ซึ่งราษฎรสามารถดำรงชีวิตได้อย่างผาสุกควบคู่กับธรรมชาติอย่างสมดุล คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืนต่อไป
กองประชาสัมพันธ์
สำนักงาน กปร.











