พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐินให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นำไปทอดถวาย ณ วัดมหาธาตุ พระอารามหลวง  

          พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐินให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นำไปทอดถวาย ณ วัดมหาธาตุ พระอารามหลวง

                วันที่  3 พฤศจิกายน 2568  เวลา  10.09 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานผ้าพระกฐินพร้อมเครื่องบริวารพระกฐิน ให้ นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นำไปทอดถวายยังที่ชุมนุมสงฆ์ในเทศกาลกฐิน พุทธศักราช 2568 ณ วัดมหาธาตุ พระอารามหลวง  อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์   ในการนี้ พระเดชพระคุณพระราชพัชรธรรมเมธี เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง

                   พิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานครั้งนี้ เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ผ้าพระกฐินพร้อมเครื่องบริวารพระกฐิน ตามที่จังหวัดเพชรบูรณ์  นำโดยนายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์  ได้ขอรับพระราชทาน เพื่อน้อมนำไปถวายยังที่ชุมนุมสงฆ์ในเทศกาลกฐินประจำปี เพื่อเป็นพุทธบูชา และสืบทอดพระพุทธศาสนา โดยมียอดเงินถวายกฐินพระราชทาน รวมทั้งสิ้น 839,070.99  บาท (แปดแสนสามหมื่นเก้าพันเจ็ดสิบบาทเก้าสิบเก้าสตางค์)  “พระกฐินพระราชทาน” เป็นพระราชพิธีสำคัญที่สืบทอดมาแต่โบราณกาล แสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยการพระราชทานผ้าพระกฐินให้ส่วนราชการ หน่วยงาน หรือองค์กรที่ได้รับพระราชทานสิทธิ นำไปถวายพระสงฆ์ผู้จำพรรษาครบไตรมาส  ณ พระอารามหลวงต่าง ๆ ภายในช่วงระยะเวลาที่กำหนด คือ ตั้งแต่วันแรม  1  ค่ำ เดือน 11  ถึงวันขึ้น 15  ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี  การถวายผ้าพระกฐินเป็นกุศลพิธีสำคัญในพระพุทธศาสนา ถือเป็นการบำรุงพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติธรรมตลอดพรรษา และเป็นโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันบำเพ็ญกุศลในทางพระพุทธศาสนา ทั้งยังเป็นการส่งเสริมความสมัครสมานสามัคคีของประชาชนในท้องถิ่น ตลอดจนเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก