ศรีสะเกษ แห่งเดียวของไทยชาวบ้านหนองแวงโวย อบต.หนองแก้วทำป้ายขนาดใหญ่ปิดกั้นถนนสาธารณะ เผยเป็นถนนที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปมาขนส่งสินค้าทางการเกษตรมานานหลายชั่วอายุคนแล้ว ร้องเรียนไปหลายส่วนราชการแล้วแต่เรื่องเงียบหาย ชาวบ้านร่วมกันร้องตะโกนลั่นให้ผู้ว่าฯศรีสะเกษช่วยด้วย
เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณปากทางเข้าบ้านหนองหว้า ถ.สายศรีสะเกษ – กันทรารมย์ ต.โพนเขวา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายประดิษฐ์ นัยนิตย์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 7 บ้านหนองแวง ต.โพนเขวา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายประเสริฐ กาลพัฒน์ อาชีพทนายความ นายวิลัย สาโร อายุ 54 ปี และตัวแทนชาวบ้านหนองแวงจำนวนหนึ่ง ได้เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษว่า ตนและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากการที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแก้ว (อบต.)ได้เข้ามาทำการก่อสร้างติดตั้งป้ายบอกทางเข้า อบต.หนองแก้ว ขนาดใหญ่เป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ขนาดกว้างประมาณ 2 เมตร สูงประมาณ 12 เมตร ปิดกั้นถนนสาธารณะที่เป็นถนนจากบ้านอีตู้ไปยังบ้านหนองหว้า ระยะทางประมาณ 3 กม. ซึ่งชาวบ้านใช้ในการสัญจรไปมาและใช้ในการขนส่งสินค้าทางการเกษตรมานานหลายชั่วอายุคนแล้ว
โดยชาวบ้านได้นำผู้สื่อข่าวเข้าไปทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่า ป้ายดังกล่าวเป็นโครงสร้างก่อสร้างของ อบต.หนองแก้ว งบประมาณในการก่อสร้าง 150,000 บาท เลขที่สัญญาจ้าง 6/2564 ลงวันที่ 10 ก.พ. 2564 วันเริ่มสัญญา 10 ก.พ. 2564 วันสิ้นสุดสัญญา 27 มี.ค. 2564 โดยเป็นการก่อสร้างป้ายปิดกั้นถนนสาธารณะที่ชาวบ้านเคยใช้ในการสัญจรไปมา มีร่องรอยของถนนเห็นได้ชัดเจน ซึ่งนายประดิษฐ์ ได้นำเอาโฉนดที่ดินของตนมาแสดงให้รู้ว่า ที่ดินบริเวณที่ถูกปิดกั้นนี้เป็นที่ดินที่ไม่สามารถที่จะเข้าออกได้ เนื่องจากว่า มีการสร้างป้ายขนาดใหญ่มีฐานเป็นแท่นปูนขนาดใหญ่ปิดกั้นถนนเอาไว้ ชาวบ้านได้ร่วมกันร้องตะโกนลั่นให้ผู้ว่าฯศรีสะเกษช่วยด้วย
นายประดิษฐ์ นัยนิตย์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 7 บ้านหนองแวง ต.โพนเขวา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ถนนสายนี้เป็นถนนสาธารณะที่ชาวบ้านใช้ในการสัญจรไปมาร่วมกันนานหลายชั่วอายุคนแล้ว โดย 2 ข้างถนนสาธารณะแห่งนี้จะเป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ แต่ชาวบ้านได้จัดแบ่งเป็นถนนสาธารณะเพื่อให้ชาวบ้านทั่วไปใช้ถนนร่วมกัน ซึ่งก่อนที่จะมีการสร้างแห่งนี้ ตนได้นำเอาหลักฐานโฉนดที่ดินไปแจ้งให้ผู้บริหาร อบต.หนองแก้ว คนหนึ่ง ทราบแล้วเพื่อคัดค้านการสร้างป้ายบอกทางปิดกั้นถนนสาธารณะ แต่ว่า ผู้บริหารคนดังกล่าวไม่ยอมยกเลิกการก่อสร้าง บอกเพียงสั้น ๆ ว่า หาก อบต.หนองแก้วจะทำการก่อสร้างให้สร้างไปเลย ตนกับชาวบ้านได้เคยร้องเรียนไปยังหลายส่วนราชการแล้ว แต่เรื่องเงียบหายไปทำให้ตนและชาวบ้านที่ใช้ถนนสาธารณะเส้นนี้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ตนขอให้ อบต.หนองแก้ว เคลื่อนย้ายป้ายบอกทางเข้า อบต.หนองแก้ว นี้ไปไว้ที่อื่นเพื่อให้ชาวบ้านสามารถใช้ถนนสาธารณะนี้ได้เช่นเดิมต่อไป จึงขอวอนมายัง นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ เพื่อขอให้ช่วยเหลือชาวบ้านให้มีถนนใช้ในการสัญจรไปมาและเพื่อใช้ในการขนส่งสินค้าท่างการเกษตรโดยด่วนด้วย
นายประเสริฐ กาลพัฒน์ ทนายความ กล่าวว่า ตนได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านจึงได้เข้ามาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งพบว่า ป้ายบอกทางของ อบต.หนองแก้ว สร้างปิดกั้นถนนสาธารณะที่ชาวบ้านใช้ในการสัญจรไปมาจริง โดยมีหลักฐานร่องรอยถนนปรากฏชัดเจนมาก เรื่องนี้ตนเห็นว่า สามารถแก้ไขปัญหาได้ไม่ยาก โดยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะต้องลงมาตรวจสอบแก้ไข และสั่งการให้ อบต.หนองแก้ว เคลื่อนย้ายป้ายออกไปจากถนนสาธารณะที่ชาวบ้านใช้ร่วมกันมานานหลายชั่วอายุคน ปัญหานี้ก็จะจบลงด้วยดี การจะใช้งบประมาณแผ่นดินเพื่อการใดก็ไม่ควรทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เพราะว่างบประมาณแผ่นดินมาจากเงินภาษีของชาวบ้าน
นายทองคำ สุขส่ง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 214 หมู่ 7 บ้านตะดอบ ต.ตะดอบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งขับรถยนต์ผ่านเส้นทางสายนี้เป็นประจำ กล่าวว่า ป้ายนี้มีขนาดใหญ่มาก แต่ว่า ตัวหนังสือมีขนาดเล็กมาก ตนเห็นว่าควรทุบทิ้งทำใหม่ เพราะว่าไม่มีประโยชน์ ประชาชนที่ผ่านไปมาจะมองเห็นแต่สีฟ้า ส่วนตัวหนังสือจังหวัดศรีสะเกษก็ตัวเล็กนิดเดียว ถ้าทำป้ายใหญ่ขนาดนี้ก็ต้องทำตัวหนังสือใหญ่ด้วย จึงจะทำให้ประชาชนที่ผ่านไปมาสามารถมองเห็นป้ายตัวหนังสือ อบต.หนองแก้วได้ชัดเจน//////
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ