แม่ทัพกุ้ง น้อมรับหลวงปู่ศิลา จุดเทียนชัยมงคลพิธีพระพุทธมนต์บวงสรวงจัดสร้างองค์พระ"สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ"   

แม่ทัพกุ้ง น้อมรับหลวงปู่ศิลา จุดเทียนชัยมงคลพิธีพระพุทธมนต์บวงสรวงจัดสร้างองค์พระ"สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ"   
 
วันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๘  ณ วัดป่าศรีคุณาราม ต.บ้านจีต  อ.กู่แก้ว  จ.อุดรธานี   พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา  สิริจันโท) ประธานฝ่ายสงฆ์  พลโทบุญสิน  พาดกลาง  แม่ทัพภาค ๒ (แม่ทัพกุ้ง) ประธานฝ่ายฆราวาส  นายราชัน  ซุ้นฮั้ว  ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี   นายศราวุธ  เพชรพนมพร  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี พร้อมแขกผู้มีเกียรติ ร่วม จุดเทียนชัยมงคลพิธีบวงสรวงจัดสร้างองค์พระ"สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ" (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) ขนาดหน้าตัก 7 เมตร  ขนาดความสูง  9  เมตร
 
 
 
ประวัติความเป็นมา และวัตถุประสงค์การจัดสร้างองค์พระด้วยวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา กองทัพภาคที่ ๒  นำโดย พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ ๒ ได้มีกุศลศรัทธาทอดกฐินสามัคคี ณ วัดป่าศรีคุณาราม แห่งนี้  พระอาจารย์ประจักษ์ ภูริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดป่าศรีคุณารามแห่งนี้ ได้สนทนาธรรม กับท่านแม่ทัพภาคที่ ๒ ปรารภถึงการสร้างสมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ หลวงพ่อใหญ่โชคดี ปางสมาธิทรงเครื่องจักรพรรดิ ขนาดหน้าตัก กว้าง ๗ เมตร สูง ๙ เมตร   ซึ่งแต่เดิม ได้มีผู้มีจิตศรัทธา จะสร้างองค์พระ และดำเนินการเททองหล่อได้เฉพาะเศียรพระ โครงการได้ยุติลงทิ้งไว้ประมาณ ๒ ปี ไม่ได้ดำเนินการต่อ
 
 
 
 
 

                            ท่านแม่ทัพภาคที่ ๒ ได้ทราบความเป็นมา จึงเกิดศรัทธา มีเจตนาจะสร้างสมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิให้สำเร็จดังใจปรารถนา เพื่อเป็นที่กราบไหว้ สักการบูชา และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน จึงปวารณารับเป็นเจ้าภาพในการจัดสร้างองค์พระและปรับพื้นที่บริเวณโดยรอบ ใช้งบประมาณในการดำเนินการ ๑๓ล้านบาท สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) ปางสมาธิทรงเครื่องจักรพรรดิ ขนาดหน้าตัก 7 เมตร ขนาดความสูง 9 เมตร หล่อด้วยเนื้อทองเหลืองอย่างดี พร้อมโครงสร้างภายใน ทำด้วยเหล็กเคลือบสีกันสนิม ทำสีผิวด้านนอกด้วยกรรมวิธีพ่นสี อะคริลิค และส่วนฐานรองรับองค์พระ ใช้วัสดุคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมฐานราก

                                 "สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ" พระพุทธรูป ปางพระทรงเครื่องจักรพรรดิ มีต้นกำเนิดมาจากเรื่องเล่า 'มหาชมพูบดีสูตร' ซึ่งถูกพบอยู่ในคัมภีร์ของพุทธศาสนานิกายมหายาน ภายหลังคัมภีร์ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในสมัยอยุธยา และกล่าวขานยาวนานมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์  ในครั้งมีมีแขกผู้มีเกียรติ พร้อมญาติธรรมอุบาสกอุบาสิการ่วมงานจำนวนมาก