ศิลปาชีพ...สร้างสุขปวงประชา จุดเริ่มต้น...ศูนย์ศิลปาชีพบ้านพิเทน หมู่บ้านพิเทน ตั้งอยู่ที่ ตำบลพิเทน อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ถือเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ในจังหวัดปัตตานี ราษฎรในหมู่บ้านพิเทนมีต้นตระกูลอพยพมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิม ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้านการใช้ภาษาพูดที่มีลักษณะพิเศษ คือ เป็นภาษาไทยภาคกลางปนถิ่นใต้  มีการใช้คำราชาศัพท์ร่วมกับภาษามลายู  

 

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2536 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในเขตพื้นที่อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ทรงรับทราบถึงปัญหาความเป็นอยู่ของราษฎร เนื่องจากราษฎรบ้านพิเทนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนยางและทำนาข้าว ไม่ค่อยได้ผลสำเร็จเท่าที่ควร ทำให้ต้องละถิ่นฐานไปประกอบอาชีพรับจ้างในเขตพื้นที่อื่นเพื่อหารายได้เสริม เหตุนี้จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สตรีผู้สนใจในการทอผ้า ปักผ้า และจักสาน ตั้งเป็นกลุ่มสมาชิก และทรงรับไว้ในโครงการส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อให้มีรายได้เสริมแก่ครอบครัวอีกทางหนึ่ง

น้ำพระราชหฤทัยดับทุกข์
ด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยทุกข์สุขของราษฎร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานแนวพระราชดำริเกี่ยวกับโครงการศิลปาชีพบ้านพิเทน จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการทอผ้าด้วยกี่กระทบ และโครงการปักผ้า พร้อมทั้งพระราชทานทุนทรัพย์ให้แก่สมาชิกทั้ง 2 กลุ่ม และอุปกรณ์ปักผ้า นอกจากนี้ยังได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการก่อสร้างศูนย์ศิลปาชีพบ้านพิเทน โดยมีนายนิโซะ หะมะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านพิเทน ได้น้อมเกล้าฯ ถวายที่ดินสำหรับใช้ในการก่อสร้างฯ
ปัจจุบันศูนย์ศิลปาชีพบ้านพิเทน มี 3 กลุ่มงาน สามารถดำเนินงานบรรลุผลสำเร็จได้เป็นอย่างดี โดยผลงานทั้ง 3 กลุ่มงานผลิตได้ทั้งหมด จะถูกจัดส่งขายให้แก่สำนักพระราชวังโดยตรง
1) กลุ่มทอผ้า มีสมาชิก 98 คน สามารถทอผ้าได้ 20 คน ผลงานเดือนละ 1 ชิ้น ความยาว 38 เมตร 
2) กลุ่มปักผ้า มีสมาชิก 48 คน สามารถปักผ้าได้ 12 คน ผลงานคนละ 1 - 4 ชิ้น รายได้ขึ้นอยู่กับลวดลายและขนาดของผ้าที่ปัก (ประมาณชิ้นละ 2,000 – 15,000 บาท) โดยในปี 2563 มีผลงานรวม 24 ชิ้น 
3) กลุ่มแกะสลักไม้ เริ่มจัดตั้งกลุ่มฯ เมื่อปี 2542 ปัจจุบันมีสมาชิก 10 คน โดยในปี 2563 มีผลงานรวม 28 ชิ้น

ศิลปาชีพ...สร้างสุขปวงประชา
ด้วยพระเมตตาที่มีต่อราษฎร ทำให้ทุกวันนี้...ราษฎรในหมู่บ้านพิเทน มีรายได้เสริมอย่างต่อเนื่อง 
มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สมาชิกในครอบครัวมีความผาสุก ก่อเกิดเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง ราษฎรต่างน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้


นางตีเยาะ อาแว ประธานกลุ่มทอผ้า กล่าวว่า “เมื่อก่อนคนในตำบลพิเทน มีฐานะความเป็นอยู่ไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไร ใช้ตะเกียงน้ำมัน เพราะมีไฟฟ้าน้อย เมื่อท่านได้เสด็จฯ มาทำให้มีถนนหนทาง ทำให้เจริญ มีไฟฟ้า มีทุกอย่าง ท่านได้พระราชทานโครงการศิลปาชีพ ทำให้ชาวบ้านมีงานมีรายได้ สามารถนำเงินจากตรงนี้ส่งให้ลูกได้เรียนต่อสูงๆ ทำให้ได้เป็นครู กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลับมาพัฒนาในชุมชน ถือว่าเป็นเรื่องสุดยอด รู้สึกซาบซึ้งในน้ำพระทัยของพระราชินี เพราะได้ทำงานของศิลปาชีพ ทำให้พวกเรามีเงินจากตรงนี้นำไปซื้อเนื้อวัวและสิ่งของบริจาคให้มัสยิด เพื่อให้สวดดุอาร์ให้ในหลวง พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ให้มีอายุยืนยาวและมีความสุข เป็นที่พึ่งของพสกนิกรไปตลอดชั่วฟ้าดินสลาย”

นายดาโอะ มีสา ตัวแทนหมู่บ้านพิเทน กล่าวว่า “ผมรู้สึกปลื้มใจมากในน้ำพระทัยของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ทรงต่อยอดโครงการของรัชกาลที่ 9 และพระราชินี และให้องคมนตรีมาเยี่ยมเยียนพวกเรา ชาวบ้านต่างรู้สึกปลาบปลื้มใจในน้ำพระทัยของพระองค์มากที่สุด ชาวบ้านทุกคนขอฝากความคิดถึงต่อในหลวงรัชกาลที่ 10 ด้วยครับ”
            กองประชาสัมพันธ์
สำนักงาน กปร.