องคมนตรี ติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช  

       องคมนตรี ติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช

              วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 น. พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้  พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการฯ นายวัชระ หัศภาค ที่ปรึกษาด้านการพัฒนา พร้อมคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปยังห้องประชุมศรีวิชัย ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อรับฟังรายงานความก้าวหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย 1)โครงการพัฒนาแหล่งน้ำตำบลช้างกลางอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามที่ราษฎรขอพระราชทาน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดสรรงบประมาณ มีแผนการดำเนินงาน 2 ปี (2568-2569) โดยพลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ได้ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลการเข้าใช้พื้นที่บริเวณเหนือทำนบดิน เนื่องจากพบว่ามีราษฎรเข้าใช้พื้นที่มากขึ้น

2)โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการส่งมอบให้แก่โครงการชลประทานนครศรีธรรมราช ดูแลและจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำ ทั้งนี้พลเอกเฉลิมชัย กล่าวว่า ปีนี้น้ำไม่ท่วมอำเภอทุ่งใหญ่ นับเป็นผลสำเร็จของอ่างเก็บน้ำคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรเผยแพร่ออกไปให้สาธารณชนรับรู้ ขณะที่พลเอกกัมปนาท ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลราษฎรที่สละพื้นที่ในการสร้างอ่างเก็บน้ำ โดยให้จัดสรรพื้นที่ที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้ใหม่ อย่างไม่เดือดร้อน

3)โครงการขุดคลองระบายน้ำชะอวด - แพรกเมือง พร้อมประตูระบายน้ำและคันกั้นทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กรมชลประทานและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นมีแผนร่วมกันจัดตั้งกลุ่มบริหารจัดการน้ำและก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าให้ครอบคลุมตามความเหมาะสมของพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำเพื่อการเกษตรกรรมของราษฎรในพื้นที่ และมีแผนก่อสร้างสถานีสูบน้ำบริเวณประตูระบายน้ำคลองชะอวด-แพรกเมือง ในปีงบประมาณ 2570 - 2571 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำออกสู่ทะเลในช่วงฤดูน้ำหลาก

 และ 4)โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าพรุควนเคร็งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หน่วยงานได้ร่วมดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้ประสบปัญหาไฟไหม้ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ตลอดจนเสริมสร้างจิตสำนึกสนับสนุนกระบวนการมีส่วนร่วมของราษฎรให้สามารถดำเนินชีวิตไปพร้อมกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ให้มีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น 

            โอกาสนี้พลเอกกัมปนาทได้กล่าวกับที่ประชุมว่าการลงพื้นที่ของคณะองคมนตรี เป็นการดำเนินงานตามพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้สำเร็จลุล่วง รวมทั้งพระราโชบายในการช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยพิบัติ ว่ามีการเตรียมแผนล่วงหน้าหรือไม่ มีปัญหาติดขัดอย่างไร และติดตามการช่วยเหลือให้ราษฎรให้รอดพ้นจากภัยพิบัติให้เร็วที่สุด สุดท้ายคือให้ติดตามโครงการพระราชดำริของรัชกาลที่9ว่ามีการช่วยเหลือราษฎรอย่างไรและต้องต่อยอดโครงการหรือไม่อย่างไร โดยเห็นว่าโครงการใดที่เร่งรัดได้ให้เร่งดำเนินงาน ที่สำคัญคือต้องทำความเข้าใจกับราษฎร ชี้ให้เห็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากโครงการ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง พร้อมฝากให้ทุกภาคส่วนบูรณาการทำงานร่วมกัน และฝากผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งคณะทำงานติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริระดับจังหวัด เพื่อขับเคลื่อนโครงการอย่างต่อเนื่อง

            ช่วงบ่าย องคมนตรีและคณะฯ เดินทางไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์ฯ ตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช รับฟังสรุปผลการดำเนินงานและการบริหารจัดการน้ำของโครงการฯ จากผู้แทนกรมชลประทานและผู้แทนกลุ่มผู้ใช้น้ำ พร้อมกับตรวจเยี่ยมสภาพพื้นที่โครงการ โอกาสนี้ องคมนตรีกล่าวกับราษฎรว่าโครงการนี้จะช่วยบรรเทาปัญหาให้ราษฎรได้ โดยเฉพาะน้ำทางการเกษตร และยังสามารถต่อยอดขยายผลโครงการเพื่อช่วยเหลือราษฎรได้อย่างครบวงจร แต่ทั้งนี้จะต้องมีกลุ่มผู้ใช้น้ำเข้ามาบริหารจัดการน้ำเพื่อให้การใช้น้ำเกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งการมีเงินของกลุ่มจะช่วยแก้ไขซ่อมแซมระบบส่งน้ำได้ทันท่วงที สืบเนื่องมาจากวันที่ 18 กันยายน 2523 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในท้องที่อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช  และมีพระราชดำริ สรุปความว่า  “...ให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการและก่อสร้างโครงการพัฒนาลุ่มน้ำคลองสังข์ ในเขตอำเภอทุ่งใหญ่โดยเร่งด่วนเพื่อจัดหาน้ำส่งให้แก่พื้นที่เพาะปลูกในเขตอำเภอทุ่งใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 70,000 ไร่ ให้สามารถทำการเพาะปลูกได้ตลอดปี รวมทั้งเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากในปีที่ฝนแล้งหรือในระยะที่ฝนทิ้งช่วงนาน การเพาะปลูกในบริเวณดังกล่าวจะเกิดความเสียหายเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำนา...”

              โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีลักษณะเป็นเขื่อนดินประเภททำนบดิน แบบ Zone Type ทำนบดินมีขนาดความกว้าง 8.00 เมตร ความยาว 1,557.00 เมตร ความสูง 22.00 เมตร ความจุที่ระดับน้ำเก็บกัก 36.57 ล้านลูกบาศก์เมตร ดำเนินการก่อสร้าง ในปี 2561 แล้วเสร็จในปี 2567  ปัจจุบันสามารถส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตร 11,200 ไร่ และเป็นแหล่งน้ำสำหรับราษฎรในพื้นที่ 1,887 ครัวเรือน จำนวน 6,123 คน โดยกรมชลประทานจะดำเนินการก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำความยาว 27.30 กิโลเมตร ในระหว่างปี 2569 – 2571 เพื่อส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตรบริเวณท้ายโครงการฯ เพิ่มอีก 10,800 ไร่ และช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยโดยเฉพาะในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลท่ายาง อำเภอทุ่งใหญ่ ซึ่งเกิดน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี อีกทั้งยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ สถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจได้อีกด้วย

ขอบคุณกองประชาสัมพันธ์
สำนักงาน กปร.




หวยเด็ดงวดนี้
เรื่องอื่นๆในหมวด